sharp tv รู้จักเทคโนโลยีเรือธงของค่ายนี้กันหน่อย

sharp tv เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างยาวนานและถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอีกหนึ่งนวัตกรรมการแสดงผลที่วันนี้หยิบมาแนะนำเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาทีวีเครื่องใหม่ครับ

ชาร์ปใช้ชื่อเรียกทีวีของตนเองว่า AQUOS TV นวัตกรรมจอภาพเฉพาะตัวที่มาพร้อมเทคโนโลยีการแทรกเฟรม AquoMotionLite ระดับ 200/240 Hz ซึ่งถือว่าสูงกว่า led tv ทั่วไปในเรทราคาและหน้าจอขนาด 32-40 นิ้ว

แนวทางการเลือกซื้อไม่ซับซ้อนครับเพราะ sharp tv แบ่งแยกฟังก์ชั่นชัดเจนในรุ่นต่างๆอย่างในรุ่น 32 นิ้ว ที่ใช้ความคมชัดแบบ HD Ready แม้จะละเอียดแค่ 1366 x 768 พิกเซล แต่อย่างที่เรียนไปว่าบางรุ่นอย่าง LE260M มีค่าการแทรกเฟรมที่สูงระดับ 240 Hz จึงรับชมรายการต่างๆเนียนตาเป็นพิเศษ

ขยับมาที่ขนาด 40 นิ้ว มีความคล้ายคลึงกับหน้าจอ 32 นิ้ว เพียงแต่ปรับความคมชัดมาเป็น Full HD (1920 x 1080 Pixel) และเพิ่มทางเลือกในเรื่องราคาแตกต่างที่ค่า AquoMotionLite ในรุ่น LE275X-WH อยู่ที่ 240 Hz และอีกรุ่นที่ประหยัดกว่าคือ LE265M-WH ใช้แบบ 50/60 Hz แต่หากต้องการหน้าจอขนาดใหญ่ระดับ 50 นิ้ว 58 นิ้ว และ 60 นิ้ว sharp tv ตอบโจทย์ราคาประหยัดกับซีรีย์ LE275X

ส่วนคนที่ต้องการเทคโนโลยีล่าสุดกับความเป็น smart tv คุณจะพบได้ในรุ่นตั้งแต่ 50 นิ้วขึ้นไปกับ 2 รุ่นที่ใช้ความละเอียดแตกต่างกันแต่ผมแนะนำให้เลือก SHARP LC-50UE630X มาพร้อมหน้าจอ 50 และ 65 นิ้วให้เลือกพร้อมความสามารถระดับท็อปด้วยจอความละเอียดแบบ Ultra HD 4K (3840 x 2160) ซึ่งละเอียดกว่า Full HD ถึง 4 เท่า

นอกจากนี้หากเทียบสเปคกับรุ่นหน้าจอ 50 นิ้ว UE630X ถือว่าคุ้มกว่ามากเพราะใช้ซอฟท์แวร์ Android 5.1 ที่รองรับความบันเทิงบนเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นใหม่ๆใน Play Store เพิ่มทางเลือกการใช้งานที่หลากหลายตามความสนใจของคุณ

สุดท้ายคือตัวท็อปของ sharp tv ที่หากมีงบประมาณเพียงพอก็จัดมาใช้งานอย่างไม่ต้องคิดกับซีรีย์ LE960X ที่มาพร้อมหน้าจอ 4K สองขนาดให้เลือกคือ 60 นิ้ว และ 70 นิ้ว ที่โดดเด่นคือเทคโนโลยีการรับชม 3 มิติ 

แสดงผลผ่านจอ X-GEN คุณสมบัติระดับ Mega Contrast ให้สีดำและขาวสูงสุด ที่สำคัญใช้ค่าการแทรกเฟรมระดับ 800/960 Hz พร้อมซีพียูทรงพลัง Quattron Pro ทั้งหมดคือสุดยอดนวัตกรรมการรับชมชั้นสูงจากชาร์ป

ความสามารถอันน่าตื่นตาตื่นใจคือฟังก์ชั่น Miracast ให้คุณย้ายการทำงานบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตไปใชช้งานผ่านจอ sharp tv ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง หรือแชร์ภาพถ่ายในหมู่เพื่อนสามารถทำได้อย่างง่ายดาย 

smart tv ซีรีย์ใหม่จาก Sharp ปี 2016 กับซอฟท์แวร์ Roku

smart tv สัญชาติญี่ปุ่นกลับมาทำตลาดอีกครั้งกับ 7 ซีรีย์ เตรียมเปิดตัวในปี 2016 พร้อมระบบปฏิบัติการ Roku นับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดหลังขายไลเซนส์ให้ Hisense ใช้ทำตลาดมาพักใหญ่

ข่าวคราวความเคลื่อนไหววงการ smart tv บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าายักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นเตรียมเปิดตัว N9000, N8000, N7000, N6000, N5000, N4000 และ N3000 ขนาด 32 – 75 นิ้ว กว่า 25 รุ่น ชูเทคโนโลยี quantum dot technology ปรับค่าความสว่างสูง 800 nits พร้อมคอนทราสต์ล่าสุดอย่างเทคโนโลยี HDR (High Dynamic Range)

ส่วนเรื่องระบบปฏิบัติการมีการเปิดเผยว่าชาร์ปอาจเปลี่ยนไปใช้ซอฟท์แวร์จากผู้พัฒนาของจีนอย่าง Roku แทนระบบ smart tv เดิมอย่าง Android TV ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเนื่องจากในรุ่นที่จำหน่ายอยู่ในตอนนี้อย่าง LC-50LE570X แม้จะเป็นรุ่นท็อปยังใช้เวอร์ชั่นเก่า (Android 4.4.4) แต่ราคากลับโดดกว่าค่ายอื่นไปมาก

LE570X ในเรท 3x,xxx บาท ควรได้รับระบบปฏิบัติการล่าสุด

การเปลี่ยนมาใช้ซอฟท์แวร์จาก Roku น่าจะสร้างความแตกต่างให้ smart tv ของชาร์ปมีความโดดเด่น และที่สำคัญราคาทีวีน่าจะต่ำลงกว่าเดิมด้วย งานนี้ต้องรอดูความเคลื่อนไหวกันต่อไปครับ

sharp tv สองรุ่นแนะนำกับการใช้งานที่แตกต่าง

sharp tv ประเทศญี่ปุ่นส่งสองรุ่นแนะนำกับฟังก์ชั่นที่แตกต่างแน่นอนว่าส่งผลต่อราคาทีวีโดยตรงความคุ้มค่าจึงขึ้นอยู่กับการใช้งานเพราะหากจ่ายแพงแลกกับเทคโนโลยีที่ไม่ได้ใช้ถือว่าสิ้นเปลืองเกินไปครับ

SHARP LC-40LE265M

หน้าจอ 40 นิ้ว บนความละเอียดแบบ Full HD แถมใส่ค่า Motion Rate มาสูงถึง 240 Hz การรับชมจึงคมชชัดและเป็นธรรมชาติมากๆ คุณสมบัติเท่านี้กับราคา sharp tv เรท 11,xxx บาทถือว่าคุ้มมาก รุ่นนี้ยังพิเศษกับฟังก์ชั่นประหยัดพลังงาน Super Eco Mode ด้วยครับ

SHARP LC-60LE960X

สุดยอดความคมชัด ULTRA HD + เทคโนโลยี Quattron Pro ให้ความคมชัดระดับ 4K บนหน้าจอ 60 นิ้ว ที่รองรับการรับชมแบบ 3D อีกต่างหาก โดดเด่นด้วย X-Gen เทคโนโลยีชั้นสูงของ sharp tv ที่ให้คอนทราสต์ภาพมืดและสว่างที่มีมิติ ตัวนี้ยังเป็น smart tv ด้วยเพราะฉะนั้นสามารถท่องเว็บไซต์และสนุกไปกับแอพฯมันส์ๆเพิ่มเติมได้ อีกทั้งยังรองรับ Miracast ให้แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนทำงานร่วมกับทีวีได้อยย่างลงตัว ช่องเชื่อมต่อ HDMI  ที่รองรับสัญญาณ 4K/30P ให้มา 4 พอร์ท และ USB อีก 3 พอร์ท คุ้มค่าในราคา 3x,xxx บาท

          สรุปการรีวิว sharp tv สองรุ่นนี้สำหรับคนที่ต้องการใช้ในการรับชมรายการธรรมมดาและเล่นคอนเทนท์ผ่าน cd/DVD เรียกว่าใช้ในชีวิตประจำวันรุ่นแรกคือทางเลือกของคุณ แต่หากต้องการเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ใส่ความบันเทิงจากโลกออนไลน์ไว้ให้เล่นบนหน้าจอขนาดใหญ่เลือกรุ่นที่สองไปเลยครับ